วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559



   โปงลาง เป็นเครื่องดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปงลางที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากที่สุดนั้นอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์เรียกได้ว่าเป็นถิ่นกำเนิดโปงลางแห่งแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โปงลางเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานซึ่งทำจากไม้พะยูง ไม้มะหาด ไม้มะเหลื่อม ไม้ขนุนและไม้ไผ่ ความยาวของท่อนไม้ยาวประมาณ ๑ ฟุต ๑๒ ท่อน (๑๒ เสียง) เวลาจะตีก็จะนำเอาเซือก (เชือก) แขวนที่ต้นไม้หรือต้นเสาให้อีกด้านหนึ่งห้อยลงมา เครื่องดนตรีชนิดนี้เล่าขานกันมาว่า เริ่มมีกันที่บริเวณเทือกเขาภูพานจากนั้นก็ค่อยๆ แพร่หลายไปยังจังหวัดต่างๆ ของถิ่นอีสานแต่ยังหาสืบประวัติดั้งเดิมไม่ได้ว่าโปงลางเริ่มขึ้นเมื่อสมัยใด นอกจากนี้ก็ได้มีผู้ที่สนใจสืบเสาะหาประวัติหลายต่อหลายท่านแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้อย่างแน่นอน โดยอาศัยหลักฐานจากการเล่าขานของคนเฒ่าคนแก่ ที่ใช้วิธีสันนิษฐานเอาเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้เช่นกัน 
      โปงลาง  นับว่าเป็นศิลปะการเเสดงดนตรีพื้นบ้านอีสานแขนงหนึ่งที่มีระเบียบวิธีการบรรเลงสอดคล้องกับการเเสดงออกทางอารมณ์และจินตนาการต่างๆ ได้แก่ ความสนุกสนาน สะท้อนภาพวิถีชีวิตของชาวอีสานให้ผู้ฟังได้รับรู้โดยซึบซับผ่านอรรถรสทางดนตรี โปงลางยังสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้านชาวไทยอีสานไว้ได้อย่างสมบูรณ์อีกรูปแบบหนึ่ง โปงลางยังสามารถใช้บรรเลงเดี่ยว บรรเลงร่วมกับการขับลำรวมทั้งประสมวงกับเครื่องดนตรีชนิดอื่นได้ เช่น พิณ แคน โหวด กลอง ฉิ่ง ฉาบ กั๊บแก๊บ และไหซอง แต่การประสมวงไม่มีแบบแผนตายตัวเช่นเดียวกับดนตรีพื้นบ้านทั่วไปซึ่งมุ่งตอบสนองจุดประสงค์ของผู้เล่นร่วมทั้งขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมเป็นการสำคัญ


๑. โปงลาง มีบทบาทหน้าที่ในการตีดำเนินทำนอง เป็นผู้นำวง



๒. พิณโปร่ง มีบทบาทหน้าที่ในการดีดทำนองประกอบแคนและโปงลาง ปัจจุบันมีการเพิ่มเครื่องขยายเสียง เพื่อให้มีความดังมากขึ้นเนื่องจากเสียงพิณโปร่งมีลักษณะค่อนข้างเบา





๓. แคน มีบทบาทหน้าที่ดำเนินทำนอง ประกอบเสียงประสานคู่โปงลางและพิณ



๔. โหวด มีบทบาทหน้าที่เป็นเสียงประสานหรือเป่าล้อกับแคนบางครั้งบรรเลงนำขึ้นเพลงช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับวงโปงลาง



๕. กลองหาง มีบทบาทหน้าที่ตีให้จังหวะหน้าทับ เพิ่มความครื้นเครองให้กับวงโปงลาง 

๖. กลองรำมะนา มีบทบาทหน้าที่กำกับจังหวะให้เกิดความสนุกสาน



๗. กั๊บแกบ มีบทบาทหน้าที่เป็นเครื่องประกอบจังหวะที่สร้างสีสันให้กับวงโปงลาง โดยให้ผู้ชายเป็นผู้ขยับกั๊บแกบพร้อมใช้ ศอก เข่า เท้า ไหล่ ศรีษะ เคลื่อนไหวไปมาด้วยท่วงท่าที่สนุกสนาน



๘.  ไหซอง มีบทบาทหน้าที่เป็นเครื่องดนตรีที่สร้างความสวยงามแก่วงโปงลาง โดยให้หญิงสาวเป็นผู้ดีดไห เน้นลีลาท่ารำอ่อนช้อย



๙. ฉาบใหญ่ ฉาบเล็ก มีบทบาทหน้าที่ตีแบบขัดจังหวะหรืออาจตีตามจังหวะหนักเพื่อให้ความครึกครื้นในการบันเลงและยังเป็นการควบคุมจังหวะของวงได้เป็นอย่างดี

๑๐. ฉิ่ง  มีบทบาทหน้าที่กำกับจังหวะ (อาจมีหรือไม่มีบรรเลงในวงโปงลางก็ได้)


นอกจากนี้วงโปงลางได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่เมื่อครูเปลื้อง ฉายรัศมีได้นำหมากกะโล่งที่ใช้สำหรับแขวนคอวัวควายมาปรับประยุกต์เป็นเครื่องดนตรี ลักษณะคล้ายโปงลางแต่มีเสียงทุ้มกังวานในระดับต่ำ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์หมากกะโล่ง ทั้งนี้เครื่องดนตรีในวงหมากกะโล่ง ประกอบด้วย หมากกะโล่ง โปงลางเหล็ก โปงลางไม้ไผ่ ไหซอง แคนใหญ่ แคนกลาง แคนเล็กเครื่องประกอบจังหวะ

    โปงลางสะออน คำว่า "สะออน" หมายถึงการตื่นตาตื่นใจหรือประทับใจลวงหลาายแบบอะเมซิ่งนั้นเองส่วนคำว่า "ออนซอนอีสาน" สองคำนี้มีความหมายค่อนข้างคล้ายและใกล้เคียงกันนั้นแปลว่า ชื่นชม ประทับใจ ตรึงใจ จึงเป็นที่มาของโปงลางสะออนจากกลุ่มดนตรีประยุกต์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านโปงลางวิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดกาฬสินธุ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร ที่นำรูปแบบการแสดงสอดใส่ความสนุกสนานเป็นวงโปงลางสะออน นำโดย อี๊ด ลูลู่ ลาล่า

       ลายโปงลาง คำว่า "ลาย" เปรียบเทียบคำภาษาดนตรีภาคกลางหรือดนตรีทั่วไปแล้วจะหมายความว่า "เพลง"  นั้นเอง เช่นบทเพลงที่จะนำเสนอเป็นบทเพลงไทยเรียกว่าเพลงลาวเจริญศรี เพลงม้าย่อง แต่บทเพลงอีสานจะเรียก ลายแม่ฮ้างกล่อมลูก ลายลมพัดพร้าว เป็นต้น

๑. ลายฟ้อนแพรด้ามวิถีถิ่นอีสาน เป็นการแสดงเกี่ยวกับการทำมาหากินของคนอีสาน ชึ่งสาวอีสานที่นั่งคอย และคิดถึงคนรัก ตอนขณะกำลังหาอาหารของชาวอีสาน คนอีสาน มีอาหารอย่างหนึ่งคือ เทา เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดตามคลองน้ำ ห้วยหนอง คลองบึง ซึ่งลายมีที่มาคือ สาวอีสาน ซึ่งออกไปหาอาหาร แล้วนั่งสาวเทาขึ้นจากน้ำ พร้อม คิดถึง ผู่บ่าว คู้รักของตน อารมณ์ของดนตรีคือเศร้า หวาน รอคอย และสะท้อนการทำมาหากินของคนอีสาน สาวเทา คือ การตักหรือช้อนเทา ขึ้นจากแม่น้ำ


๒. ลายฟ้อนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี 

๓. ลายแพรวากาฬสินธุ์ เป็นการแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตการทอผ้าของชาวภูไทพื้นบ้านนิยมทอกันอย่างแพร่หลายในหลายจังหวัด เพราะได้การสนับสนุนจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และมีการพัฒนารูปแบบ สีสัน และลวดลายต่างๆมากขึ้น ทำให้ผ้าไหมแพรวาเป็นที่นิยม และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเป็นต้น





































การแต่งกายรำแพรวากาฬสินธุ์


  สวมเสื้อเกาะอกสีเหลืองตามด้วยผ้าถุงแพรวาลัดด้วยเข็มขัดและผ้าโผกเอวสีดำผ้าสะไบแพรวาสีเหลืองผมเกล้ามวยทัดดอกไม้หรือปิ่นปักผมให้สวยงามใส่เครื่องประดับต่างหู สร้อยคอและกำไลสีเงิน


  ดังนั้นโปงลางถือว่าเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในวัฒนธรรมอีสาน วัฒนธรรมการบันเลงวงโปงลางมีการปรับเปลี่ยนไปตามความนิยมและยุคสมัย ซึ่งศิลปินใช้ปฏิภาณในการสร้างสรรค์สร้างท่วงทำนองให้มีความกลมกลืนกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าะเป็นการบรรเลงเพลงลายต่างๆ การร่ายรำหรือฟ้อนที่อ่อนช้อยแสดงให้เห็นถึงอารมณ์และความรู้สึกต่อผู้ฟังให้มีความคิดและสัมผัสถึงเอกลักษณ์ของความเป็นกลิ่นไอของพื้นบ้านอีสานมีทวงทำนองอันไพเราะสอดคล้องกับภาษา วรรณคดี สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของชาวอีสานที่รักสงบชอบความสนุกสนาน เพลิดเพลิน พร้อมกับวงโปงลางมีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องผ่านการถ่ายทอดความรู้ทั้งในรูปแบบของการซึมซับ รูปแบบวงดนตรีโปงลางอีสานพื้นบ้าน ตลอดจนรูปแบบของการใช้สื่อช่วยสอน การแสดงโปงลางจึงเป็นภาพสะท้อนวิถีชีวิตในรูปแบบวัฒนธรรมความบันเทิงให้เเก่คนรุ่นหลังได้อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้สนับสนุนและสืบทอดให้อยู่คู่กับท้องถิ่นอีสานสืบไป


คลิปการเเสดงรำแพรวากาฬสินธุ์จากนายสุริยน กันธิมา


 คลิปสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นางสาวสิริพงศ์พร ดาวหล (ครูหน่อย) การเเสดงพื้นบ้านอีสาน





ภาพประกอบ





จัดทำโดย นายสุริยน กันธิมา 5708355 ( 03)
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารมวลชน

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น